ความรู้ที่ได้รับ
1.การเคลื่อนไหวอยู่กับที่ การเคลื่อนไหวโดยที่ร่างกายยังอยู่ที่เดิม เช่น การเหวี่ยงแขน ยืนทรงตัวอยู่กับที่ด้วยเท้าเดียว
2.การเคลื่อนไหวแบบเคลื่อนที่ การเคลื่อนไหวที่ร่างกายต้องย้ายตำแหน่งของร่ายกายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง เช่น การเดิน การวิ่ง การคลาน
3.การเคลื่อนไหวแบบประกอบอุปกรณ์ การเคลื่อนไหวพร้อมอุปกรณ์จะช่วยทำให้เด็กได้พัฒนาการทำงานประสานกันระหว่างมือกับตา ประสาทเท้ากับตา และประสาทมือเท้าและตาดีขึ้น เช่นการใช้ริบบิ้น การใช้ลูกบอล


ขั้นนำของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะแบบที่ 1
1.อธิบายสัญญาณให้เด็กฟัง โดยคุณครูจะเคาะจังหวะรัวช้าให้เด็กเคลื่อนไหวไปรอบๆห้องอย่างช้าๆ แต่ถ้าคุณครูเคาะจังหวะรัวเร็วๆให้เด็กเคลื่อนไหวไปรอบห้องอย่างเร็วๆ และถ้าคุณครูเคาะจังหวะติดกัน 2 ครั้ง ให้เด็กๆหยุดอยู่กับที่
2.เด็กหาบริเวรพื้นที่เฉพาะตัว โดยกางแขนออกแล้วหมุนรอบตัวเองโดยไม่ชนเพื่อน
3.ให้เด็กๆเคลื่อนไหวไปรอบๆห้องตามสัญญาณของคุณครู
4.คุณครูต้องเดินไปรอบๆห้องขณะเด็กปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังเกตพฤติกรรมของเด็ก
ขั้นนำของกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะแบบที่ 2
คุณครูให้สัญญาณกับเด็กดังนี้
1. ถ้าคุณครูเคาะรัวช้าๆ
ให้เด็กๆก้าวไปรอบๆห้องอย่างช้าๆ
แต่ถ้าคุณครูเคาะเร็วรัวๆให้เด็กๆก้าวไปรอบๆห้องอย่างเร็วๆ และถ้าคุณครูเคาะ 2 ครั้งติดกัน ให้เด็กหยุดการเคลื่อนไหวในท่านั้นทันที
2.เด็กหาบริเวรพื้นที่เฉพาะตัว โดยกางแขนออกแล้วหมุนรอบตัวเองโดยไม่ชนเพื่อน
3.ให้เด็กๆเคลื่อนไหวไปรอบๆห้องตามสัญญาณของคุณครู
4.คุณครูต้องเดินไปรอบๆห้องขณะเด็กปฏิบัติกิจกรรมเพื่อสังเกตพฤติกรรมของเด็ก
การนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน
กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะเป็นกิจกรรมที่ความสำคัญต่อพัฒนาการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งจำเป็นต้องมีขั้นตอนในการสอนเพื่อให้เด็กๆเกิดการเรียนรู้การจำและการปฏิบัติ
ประเมิน
ตนเอง : เข้าเรียนตรงเวลา ตั้งใจทำกิจกรรม
เพื่อน : ตั้งใจทำกิจกรรมและทุกคนฝึกการทำกิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ
อาจารย์ : ให้คำแนะนำวิธีการสอนแก่นักศึกษาทุกขั้นตอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น